ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเจริญสินกรุ๊ป

ประวัติความเป็นมา

กลุ่มเจริญสิน เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 โดยมีจุดกำเนิดจากครอบครัวเชื้อสายจีนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการค้าขาย ผู้นำตระกูลรุ่นที่หนึ่งได้ยึดถือ หลักคุณธรรม ความซื่อสัตย์ ความเพียรพยายาม และความมุ่งมั่น เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างและพัฒนาธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมฟอกหนัง

ในปี พ.ศ. 2488 กลุ่มเจริญสินได้ก่อตั้งโรงงานฟอกหนังแห่งแรกขึ้นในรูปแบบกิจการของครอบครัว นับเป็นก้าวสำคัญที่วางรากฐานให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ของทายาทรุ่นที่สอง ธุรกิจได้เติบโตอย่างมั่นคง และได้ขยายเข้าสู่สายการผลิตรองเท้าสำเร็จรูป โดยมีสองแบรนด์หลักที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่

แมนวูด (Manwood) – โดดเด่นในเรื่องรองเท้าหนังสำหรับสวมใส่ในโอกาสทางการที่มีความทนทาน
แพงโกลิน (Pangolin) – มีชื่อเสียงในด้านรองเท้านิรภัยคุณภาพสูง

ต่อจากนั้น กลุ่มเจริญสินยังได้ขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ ใยสังเคราะห์ เคมีภัณฑ์ ยาง และสินค้าอุปโภค พร้อมทั้งเริ่มเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การเปลี่ยนผ่านสู่บริษัทมหาชน

ในปี พ.ศ. 2537 โรงงานฟอกหนังเจริญสินได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CPL Group Public Company Limited) นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนถึงความพร้อมในการยกระดับการดำเนินธุรกิจสู่ความเป็นสากล

ต่อมา กลุ่มเจริญสิน ไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ จึงได้ขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท เจริญสิน แอสเสท จำกัด ด้วยการสร้างห้องพักให้เช่าในแนวตั้งเป็นตึกสูงห้าชั้นรายแรกของประเทศไทย โดยโครงการแรกใช้ชื่อว่า สามห่วงคอนโด จำนวน 1,700 ห้อง รองรับคนงานในนิคมบางปู ปัจจุบัน บริษัท เจริญสิน แอสเสท มี 25 โครงการ และมีจำนวนห้องมากกว่า 40,000 ห้อง ครอบคลุมสิบจังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สมุทรสาคร ลำพูน เพชรบุรี ระยอง นครราชสีมา และ ภูเก็ต

ทายาทรุ่นที่สาม : การขยายเครือข่ายธุรกิจสู่ระดับสากล

ทายาทรุ่นที่สามของกลุ่มเจริญสินมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ตลาดสากล ผ่านการสื่อสาร เจรจาการค้า และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรจากภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งเน้นการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์กับต่างชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางธุรกิจ เทคโนโลยี และการผลิต เช่น

ก่อตั้ง บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) (ADB) โดยเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ดี.บี. เคมีคัล อินดัสเตรียล จำกัด (ไทย) และบริษัท แอ็พพลาย เคมีคอล อินดัสตรี้ จำกัด (ไต้หวัน) ดำเนินธุรกิจผลิตกาวและเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ปี 2560
ก่อตั้ง บริษัท อีเกิ้ล เคมีคอล อินดัสตรี จำกัด โดยร่วมทุนระหว่างกลุ่มเจริญสินและพันธมิตรจากไต้หวัน ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนังและสิ่งทอ ปัจจุบันเป็นศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) ทั้งการผลิตและจำหน่ายสินค้าให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
ก่อตั้งบริษัท ซีเอส มิตซูฟูกุ อีลาสโตเมอร์ จำกัด โดยร่วมทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจผลิตยางฟลูออโรคาร์บอน (FKM) ซึ่งเป็นวัสดุเฉพาะทางที่มีความต้องการสูงในตลาดอุตสาหกรรม บริษัทฯ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในประเทศเพื่อลดการนำเข้า และตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการผลิตยาง FKM คุณภาพสูงในภูมิภาค

โดยบริษัทในกลุ่มฯ ยังให้ความสำคัญต่อมาตรฐานระดับสากล อาทิ :

ISO 9001:2015 – ระบบบริหารคุณภาพ
ISO 14001:2004 – ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
ISO/TS 16949 – ระบบบริหารคุณภาพอุตสาหกรรมยานยนต์

ทายาทรุ่นที่สี่ : การสืบสานและพัฒนาองค์กร

ทายาทรุ่นที่สี่ของกลุ่มเจริญสินกำลังเตรียมเข้าสู่บทบาทผู้นำ ด้วยแนวคิดที่ทันสมัยและวิสัยทัศน์ระดับโลก โดยเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) มาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ในเชิงธุรกิจ การนำ AI และ Big Data มาใช้ในการวางแผนยุทธศาสตร์ ครอบคลุมตั้งแต่

การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ตลาด
การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อย่างแม่นยำ
การคาดการณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจและตลาดโลก เพื่อเตรียมกลยุทธ์เชิงรุก
รวมถึงการบริหารความเสี่ยงและการเงิน ด้วยระบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ ทายาทรุ่นที่สี่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ (Business Model Innovation) ที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Business) เพื่อให้กลุ่มเจริญสินสามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว